หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “สมดุลของผิว” มากันหลายครั้ง เรื่องความสมดุลของผิวนั้น กล่าวถึงการดูแลสุขภาพของผิวให้มีความสมดุลตามธรรมชาติไม่ให้มีสิ่งใดขาดหรือเกินผิดปกติ หมายถึงทั้งด้านความชุ่มชื่น และค่า pH ของผิวก็ควรอยู่ในระดับสมดุลเช่นเดียวกัน
สมดุลของ pH บนผิวพรรณ
สมดุลของกรด-ด่างมีผลกระทบต่อผิวไม่น้อย เพราะผิวของเราจะมีค่าความเป็นกรดที่ 4.7 – 5.75 ค่อนข้างเป็นกลาง แต่สิ่งแวดล้อมและการใช้สารบำรุงต่างๆ อาจทำให้ค่าสมดุลนี้เปลี่ยนแปลงไปได้ เช่น หากใช้สบู่บางชนิดที่มีความเป็นด่างสูงไม่เหมาะกับใบหน้า เช่นสบู่ก้อนอาบน้ำที่มีความด่างสูงผิดปกติ อาจทำให้ผิวแห้งเกิดอาการแพ้ง่าย และหากใช้สารเคมีที่มีกรดมากเกินไปก็จะทำให้ผิวระคายเคือง มีรอยแดง เกิดการอักเสบได้ง่าย
AHA เป็นกรดชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมนำมาใช้กับผิวพรรณเพื่อผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดเลือนรอยด่างดำ จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวและได้รับการรับรองว่าอ่อนโยนต่อผิวพรรณ สังเกตที่ค่าความเข้มข้นของ AHA ที่เหมาะสำหรับใช้เองโดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวและได้ผลคือต้องไม่เกิน 20% และเว้นระยะการใช้งานเพียงสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อพักผิวและลดการกระทบกับสมดุลของค่า pH ในผิวพรรณ (สำหรับผิวที่ค่อนข้างบอบบางเสี่ยงต่อการแพ้ง่ายอาจเลือกใช้สาร PHA ที่ซึมเข้าสู่ผิวช้าลงแต่ให้ประสิทธิภาพการผลัดผิวเช่นเดียวกับ AHA)
สมดุลของความชุ่มชื่น
ผิวทุกแบบต้องการความชุ่มชื่นหล่อเลี้ยงจากภายใน เพื่อให้ผิวมีสมดุลของน้ำอย่างพอเหมาะ เราสามารถสร้างสมดุลของความชุ่มชื่นนี้ได้ด้วยการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ รับวิตามินจากอาหารต่างๆที่หลากหลายสม่ำเสมอ และบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื่น รักษาความชุ่มชื่นได้ตลอดวัน จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ความหมองคล้ำ รักษาผิวให้เนียนนุ่มอ่อนเยาว์
ปัจจุบันสกินแคร์มีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ การเลือกใช้สกินแคร์ที่ดีกับผิวสักตัวอย่าลืมนึกถึงการสร้างสมดุลอย่างพอเหมาะให้กับผิว ป้องกันได้ทั้งสิว ความหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย