เกราะของผิวหรือ Skin Barrier เป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องผิวจากสารเคมีและสารอนุมูลอิสระ ทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเข้าสู่ผิวได้น้อยลง ผิวคงความชุ่มชื่นไม่อักเสบแดงง่าย เมื่อเราดูแลเกราะของผิวเป็นอย่างดีแล้วช่วยให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้น้อยลงนั่นเอง
โดยทั่วไป สภาพผิวชั้นบน ( Stratum Corneum) ของคนเรา จะประกอบกัน เป็นชั้นของไขมันตามธรรมชาติ ซึ่งมีเซอราไมด์ 40-65% เป็นส่วนประกอบ นอกนั้นจะเป็นโคเลสเตอรอลและกรดไขมันชนิดต่างๆ ซึ่งจะให้ความชุ่มชื้น และเป็นเกราะคุ้มกันผิว หากเกราะของผิวชั้นบนนี้เจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือการใช้สารเคมีที่รุนแรงกับผิวก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรืออาการผิวแห้ง แดง ลอกและคันขึ้นมาได้ ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้กลายเป็นผิวแพ้ง่าย มีริ้วรอยได้ง่าย
เสริมเกราะป้องกันไม่ให้ผิวแพ้ง่าย
1. เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวอยู่เสมอ ด้วยการทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่เน้นให้ความชุ่มชื่น คงความชุ่มชื่นของผิวได้อย่างยาวนาน
2. ทาครีมกันแดดอยู่เสมอ เพราะรังสียูวีและความร้อนจากแดดไม่ว่าจะแดดแรง แดดอ่อน ก็ส่งสารอนุมูลอิสระเข้ามาทำลายชั้นผิวได้เสมอ การทาครีมกันแดดหรือใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมของสารกันแดดอยู่เสมอจะช่วยปกป้องผิวจากอาการอักเสบและความคล้ำเสีย ปกป้องเกราะของผิวได้เป็นอย่างดี
3. เสริมสารอาหารที่ผิวต้องการ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินอีสูง ช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ทานอาหารได้หลายชนิดเช่น อะโวคาโด้ วอลนัต แซลมอน คื่นช่าย แตงกวา และทานอาหารที่มีไลโคปีนสูง โดยเฉพาะมะเขือเทศ(แบบสุกจะมีมากกว่าแบบดิบ)
4. ปกป้องผิวจากการระคายเคือง ลดการใช้สารที่ก่อให้ผิวระคายเคือง เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอม สารสังเคราะห์ชนิดต่างๆ ที่มักมากับผลิตภัณฑ์ประเภทไวท์เทนนิ่งในช่วงที่ผิวมีความอ่อนแอ
สำหรับการใช้ครีม AHA เพื่อผลัดเซลล์ผิว สามารถใช้ได้เมื่อเลือกใช้ AHA ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น NeoStrata Ultra Smoothing Cream มี AHA เข้มข้น 10% ไม่ทำร้ายชั้นผิวให้เกิดความระคายเคืองมากจนเกินไป การผลัดเซลล์ผิวเอาชั้นขี้ไคลภายนอกออกอย่างพอดียิ่งจะช่วยให้ผิวมีคอลลาเจนมากขึ้นและแข็งแรงมากขึ้น
คนเราแต่ละคนต่างมีภูมิต้านทานที่แตกต่างกัน เกิดอาการแพ้-ไม่แพ้ที่แตกต่าง วิธีการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปกป้องเกราะของชั้นผิวให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดการเกิดอาการแพ้และระคายเคืองง่ายทำให้ผิวไม่ไวต่อสิ่งเร้ามากเกินไป ผิวจึงแข็งแรงขึ้นเมื่อดูแลอย่างถูกวิธี